โปรโมชั่น!! ผ่อนชำระสินค้าเริ่มต้นที่ 0%

รู้หรือไม่ เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนที่นอน

รู้หรือไม่ เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนที่นอน

ในหนึ่งวัน คนเราใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมงไปกับการนอนหลับพักผ่อนบนที่นอน เรื่องของที่นอนจึงนับว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม นอกจากการเลือกซื้อที่นอนให้เหมาะสมกับการใช้งาน และสรีระร่างกาย เพื่อสร้างสุขภาพการนอนที่ดีแล้ว การดูแลรักษา และหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของที่นอนที่เรานอนอยู่ทุกวัน ก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน 

 

เพราะโดยเฉลี่ยทั่วไป อายุการใช้งานของที่นอนมักจะอยู่ที่ประมาณ 7-10 ปี ซึ่งโดยความจริงแล้วเราไม่ควรพิจารณาแค่ที่อายุการใช้งานแต่เพียงเท่านั้น เพราะหากเกิดสัญญาณเตือนอื่น ๆ ดังต่อไปนี้ ก็อาจแสดงให้เห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่เราควรเปลี่ยนที่นอน

 

สัญญาณเตือนการเปลี่ยนที่นอน

  1. นอนแล้วรู้สึกไม่บายตัว

ในขณะนอนหลับหากรู้สึกว่าไม่ค่อยสบายตัว หลับ ๆ ตื่น ๆ นอนไม่หลับ ตื่นมาทุกเช้าด้วยความรู้สึกไม่สดชื่น เสมือนนอนไม่เต็มอิ่ม นั่นก็อาจเป็นเพราะที่นอนไม่ตอบโจทย์การใช้งาน หรือลักษณะการนอนของเรา คุณสมบัติ และโครงสร้างของที่นอนอาจไม่สามารถรองรับสรีระร่างกายของเราได้ดีเท่าที่ควร อาจมีระดับความนุ่มที่นุ่มเกินไป หรือแข็งเกินไป จึงไม่สามารถทำให้การนอนหลับของเราดำเนินไปอย่างราบรื่นได้

  1. เกิดอาการปวดหลัง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ

หากลองสังเกตร่างกายของเราแล้วพบว่าทุกครั้งที่ลุกจากที่นอน บริเวณหลัง หรือตามร่างกายของเราต้องพบเจอกับความปวดเมื่อยตามมา นั่นก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่แสดงว่า ที่นอนที่เรานอนอยู่ทุกวัน เป็นสาเหตุของอาการปวดที่เกิดขึ้น ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะที่นอนอาจไม่ได้ถูกออกแบบ หรือใช้วัสดุที่ผลิตขึ้นเพื่อรองรับสรีระร่างกายอย่างถูกต้องนั่นเอง หากปล่อยไว้นานเข้าก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในอนาคตได้

  1. ความร้อน และภูมิแพ้

หากนอนแล้วรู้สึกว่าอึดอัด ร้อน ไม่สบายตัว จนถึงขั้นที่ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่ามีเหงื่อเปียกเต็มแผ่นหลัง นั่นก็แสดงว่าที่นอนของเรากักเก็บความร้อน ไม่สามารถระบายอากาศได้นั่นเอง ซึ่งก็อาจก่อให้เกิดความชื้น และเชื้อราบนที่นอนได้หากยังใช้งานต่อไป ส่วนสำหรับใครที่มีอาการภูมิแพ้ หากเกิดอาการกำเริบ ไอ จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล ก็อาจเป็นเพราะที่นอนของเราไม่มีคุณสมบัติในการป้องกันไรฝุ่นที่ดีมากพอ จนทำให้เราถูกไรฝุ่นเล่นงานนั่นเอง

  1. ที่นอนเริ่มเสื่อมสภาพ

ขณะที่ล้มตัวลงนอน หรือพลิกตัวไปมาขณะนอน หากรู้สึกว่าที่นอนมีการยุบตัวเป็นแอ่ง คืนตัวกลับเป็นสภาพเดิมได้ช้า พื้นผิวของที่นอนเป็นก้อนที่บริเวณใดบริเวณหนึ่ง หรือมีความสูงต่ำที่ไม่สม่ำเสมอทั้งแผ่นที่นอน นั่นคือสัญญาณของการที่วัสดุของที่นอนเริ่มมีการเสื่อมสภาพจนทำให้ความหนาแน่นของที่นอนเกิดการเปลี่ยนแปลง ในกรณีที่เป็นที่นอนสปริง ก็อาจเกิดเป็นเสียงดังรบกวน หรือรู้สึกเหมือนมีวัสดุลักษณะแข็งทิ่มทะลุออกมาจากแผ่นที่นอน แสดงถึงการเสื่อมสภาพของสปริง ที่ถูกใช้งานมาเป็นเวลานาน

 

หากเราสังเกต รู้ทัน และจัดการเปลี่ยนที่นอนที่เสื่อมสภาพอย่างทันท่วงที ก็จะทำให้ปัญหาเกี่ยวกับการนอน และสุขภาพร่างกายหมดไป เพราะหากเราใช้งานที่นอนจนเสื่อมสภาพ หรือปล่อยไว้จนเกินอายุการใช้งาน ก็อาจเกิดเป็นปัญหาเรื้อรังที่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายไปจนถึงสุขภาพจิตใจได้โดยที่เราไม่รู้ตัว