การนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานหลายชั่วโมงต่อวันกลายเป็นเรื่องปกติของคนทำงานยุคใหม่ แต่สิ่งที่หลายคนมองข้ามคือผลกระทบต่อสุขภาพที่เกิดจากการนั่งผิดท่า หรือใช้เก้าอี้ที่ไม่เหมาะสม อาการปวดหลัง ปวดคอ และปวดไหล่ ล้วนเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในกลุ่มพนักงานออฟฟิศ การเลือกเก้าอี้ทำงานที่มีคุณภาพจึงไม่ใช่แค่เรื่องของความสะดวกสบาย แต่เป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพในระยะยาว บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักคุณสมบัติสำคัญที่เก้าอี้ทำงานที่ดีควรมี เพื่อให้คุณสามารถเลือกซื้อได้อย่างมั่นใจ และตรงกับความต้องการ
ทำไมการเลือกเก้าอี้ทำงานจึงสำคัญต่อสุขภาพ
หลายคนอาจคิดว่าเก้าอี้ทำงานเป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์ธรรมดาที่ใช้นั่งทำงาน แต่ความจริงแล้วเก้าอี้ที่เราใช้ทุกวันมีผลโดยตรงต่อสรีระ และสุขภาพของเรา การนั่งบนเก้าอี้ที่ไม่รองรับสรีระอย่างเหมาะสมจะทำให้กล้ามเนื้อต้องทำงานหนักเพื่อรักษาท่าทาง ส่งผลให้เกิดอาการเมื่อยล้า และปวดหลังสะสม
เก้าอี้เพื่อสุขภาพถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้โดยเฉพาะ ด้วยการกระจายน้ำหนักตัวอย่างสมดุล และรองรับส่วนโค้งตามธรรมชาติของกระดูกสันหลัง ทำให้ผู้ใช้สามารถนั่งทำงานได้นานขึ้นโดยไม่รู้สึกเหนื่อยล้า นอกจากนี้ การใช้เก้าอี้ทำงานที่ดียังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เพราะเมื่อร่างกายสบาย สมองก็สามารถโฟกัสกับงานได้ดีขึ้น
คุณสมบัติสำคัญของเก้าอี้ทำงานที่ดี
การเลือกซื้อเก้าอี้ทำงานไม่ควรพิจารณาแค่ราคา หรือรูปลักษณ์ภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงคุณสมบัติหลายประการที่จะช่วยให้การนั่งทำงานของคุณสะดวกสบาย และปลอดภัยต่อสุขภาพ ต่อไปนี้คือคุณสมบัติหลักที่เก้าอี้ทำงานคุณภาพดีควรมีครบ
● ระบบรองรับหลัง และเอวของเก้าอี้ทำงาน

พนักพิงหลังเป็นส่วนสำคัญที่สุดของเก้าอี้ทำงานเพราะทำหน้าที่รองรับกระดูกสันหลังตลอดเวลาที่นั่ง เก้าอี้ Ergonomic ที่ดีจะมีส่วนโค้งรองรับบริเวณเอว (Lumbar Support) ที่สามารถปรับระดับความสูง และความลึกได้ เพื่อให้พอดีกับส่วนโค้งธรรมชาติของกระดูกสันหลังแต่ละคน
การมีระบบรองรับเอวที่เหมาะสมจะช่วยลดแรงกดที่หมอนรองกระดูก ป้องกันอาการปวดหลังส่วนล่างที่มักเกิดจากการนั่งนาน ๆ นอกจากนี้ พนักพิงหลังควรมีความสูงเพียงพอที่จะรองรับหลังส่วนบน และไหล่ได้ด้วย เพื่อให้การนั่งทำงานสบายครบทุกส่วน
● ที่วางแขนปรับระดับได้

ที่วางแขนเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่ไม่ควรมองข้ามในการเลือกเก้าอี้ทำงาน ที่วางแขนที่ดีควรปรับระดับความสูงได้เพื่อให้แขนวางในตำแหน่งที่ทำมุม 90 องศากับลำตัว ซึ่งจะช่วยลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อไหล่ และคอได้เป็นอย่างดี
เก้าอี้เพื่อสุขภาพรุ่นที่มีคุณภาพมักมีที่วางแขนแบบ 3D หรือ 4D ที่สามารถปรับได้ทั้งความสูง ความกว้าง และมุมเอียง ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งให้เข้ากับลักษณะการทำงานของตนเองได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์งาน ใช้เมาส์ หรือเขียนเอกสาร
● ความสูงที่นั่งปรับได้ตามสรีระ

เก้าอี้ทำงานที่ดีต้องสามารถปรับความสูงของที่นั่งได้ เพื่อให้เหมาะกับความสูงของผู้ใช้ และความสูงของโต๊ะทำงาน ตำแหน่งที่นั่งที่เหมาะสมคือเมื่อเท้าวางราบกับพื้น เข่าทำมุมประมาณ 90 องศา และต้นขาขนานกับพื้น
ระบบปรับความสูงแบบ Gas Lift เป็นมาตรฐานที่พบได้ในเก้าอี้ Ergonomic ส่วนใหญ่ ซึ่งช่วยให้การปรับระดับทำได้ง่าย และรวดเร็ว นอกจากนี้ บางรุ่นยังมีระบบปรับความลึกของที่นั่งได้ด้วย เพื่อรองรับผู้ใช้ที่มีความยาวต้นขาแตกต่างกัน
● วัสดุที่นั่ง และการระบายอากาศ

วัสดุที่ใช้ทำเก้าอี้ทำงานมีผลต่อความสบายในการนั่งเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีอากาศร้อนชื้น การเลือกเก้าอี้ที่มีวัสดุระบายอากาศได้ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ปัจจุบันเก้าอี้เพื่อสุขภาพหลายรุ่นใช้ผ้าตาข่าย (Mesh) ที่มีความยืดหยุ่น และระบายอากาศได้ดี ช่วยลดการสะสมความร้อน และความชื้น ทำให้นั่งได้สบายตลอดทั้งวัน ส่วนเก้าอี้ที่ใช้โฟมรองนั่งควรเลือกโฟมคุณภาพสูงที่มีความหนาแน่นเหมาะสม ไม่ยุบตัวง่ายแม้ใช้งานเป็นเวลานาน
● ฐานล้อ และความมั่นคง

ฐานของเก้าอี้ทำงานควรมีความแข็งแรง และมั่นคง โดยทั่วไปเก้าอี้คุณภาพดีจะใช้ฐาน 5 แฉกที่ทำจากวัสดุทนทาน เช่น ไนลอนเสริมใยแก้ว หรืออะลูมิเนียม ซึ่งรับน้ำหนักได้มาก และไม่แตกหักง่าย
ล้อเลื่อนก็เป็นส่วนสำคัญที่ต้องพิจารณา ควรเลือกล้อที่เหมาะกับพื้นที่ใช้งาน เช่น ล้อยางสำหรับพื้นแข็ง หรือล้อไนลอนสำหรับพื้นพรม การเลื่อนที่ราบรื่นจะช่วยให้สามารถเคลื่อนไหวสะดวกโดยไม่ต้องลุกจากเก้าอี้
เก้าอี้ทำงานแบบไหนเหมาะกับลักษณะการใช้งานของคุณ
การเลือกเก้าอี้ทำงานให้เหมาะสมยังต้องพิจารณาลักษณะการทำงาน และระยะเวลาที่ใช้นั่งในแต่ละวันด้วย หากคุณต้องนั่งทำงานมากกว่า 6-8 ชั่วโมงต่อวัน การลงทุนกับเก้าอี้ Ergonomic คุณภาพสูงจะคุ้มค่าในระยะยาว เพราะช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้
สำหรับผู้ที่มีปัญหาปวดหลังอยู่แล้ว ควรเลือกเก้าอี้เพื่อสุขภาพที่มีระบบรองรับเอวที่ปรับได้หลายระดับ และพนักพิงหลังที่สามารถเอนได้เพื่อเปลี่ยนท่าทางระหว่างวัน ส่วนผู้ที่ทำงานสลับระหว่างการนั่ง และการประชุม อาจเลือกเก้าอี้ที่มีล้อเลื่อนคุณภาพดี และหมุนได้ 360 องศา เพื่อความคล่องตัวในการเคลื่อนไหว
วิธีดูแลรักษาเก้าอี้ทำงานให้ใช้งานได้ยาวนาน
เมื่อลงทุนซื้อเก้าอี้ทำงานคุณภาพดีแล้ว การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งานได้อีกหลายปี ควรทำความสะอาดเก้าอี้เป็นประจำโดยใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดฝุ่น และคราบสกปรก สำหรับเก้าอี้ผ้าตาข่ายอาจใช้เครื่องดูดฝุ่นช่วยทำความสะอาดซอกเล็กซอกน้อยที่เข้าถึงได้ยาก
การตรวจสอบน็อต และสกรูเป็นระยะก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะการใช้งานทุกวันอาจทำให้ชิ้นส่วนคลายตัวได้ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการนั่งบนเก้าอี้ทำงานในท่าที่ไม่เหมาะสม เช่น นั่งพับขา หรือเอนหลังมากเกินไป เพราะจะทำให้กลไกต่าง ๆ สึกหรอเร็วกว่าปกติ
การเลือกเก้าอี้ทำงานที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับสุขภาพ และประสิทธิภาพการทำงานในระยะยาว คุณสมบัติสำคัญที่ต้องพิจารณาประกอบด้วยระบบรองรับหลัง และเอว ที่วางแขนปรับระดับได้ ความสูงที่นั่งปรับได้ วัสดุที่ระบายอากาศดี และฐานล้อที่แข็งแรง เก้าอี้ Ergonomic หรือเก้าอี้เพื่อสุขภาพที่ออกแบบมาอย่างดีจะช่วยป้องกันอาการปวดหลัง และปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่อาจเกิดจากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน
หากคุณกำลังมองหาเก้าอี้ทำงานใหม่ ลองนำคุณสมบัติที่กล่าวมาไปเป็นเกณฑ์ในการเลือกซื้อ และอย่าลืมทดลองนั่งก่อนตัดสินใจ เพื่อให้มั่นใจว่าเก้าอี้ตัวนั้นเหมาะกับสรีระและความต้องการของคุณจริง ๆ เลือกชมเก้าอี้ทำงานคุณภาพ หลากหลายรูปแบบที่ถูกใจคุณได้แล้วที่ เก้าอี้ทํางาน เก้าอี้สำนักงาน ราคาถูก | หนึ่งดีเลิศ














